สารจากคณบดี

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีพันธกิจด้านการศึกษา เพื่อผลิตบัณฑิต และบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ ส่งเสริมการวิจัย สร้างผลงานทางวิชาการโดยยึดหลักจริยธรรม คุณธรรมทางวิชาชีพ สอดคล้องกับนโยบายด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ ตลอดจนการให้บริการทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีคุณภาพตามหลักมาตรฐานสากล อีกทั้งเป็นผู้ชี้นำทางสังคม ด้านสุขภาพ ตลอดจนความรับผิดชอบต่อสังคมไทยในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของประชาชนอย่างยั่งยืนสำหรับการดำเนินงานตามพันธกิจของคณะ ฯ นั้น ที่ผ่านมาคณะฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐเพียงร้อยละ 20 ซึ่งไม่เพียงพอต่อการให้บริการในด้านต่าง ๆ รวมทั้งการให้บริการผู้ป่วยซึ่งมีจำนวนมากที่มารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยยากไร้และด้อยโอกาสด้วยเหตุนี้คณะ ฯ จึงมีความจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มอีกร้อยละ 80 เพื่อรองรับการดำเนินงานของคณะ ฯ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยดีอย่างมีคุณภาพ ในการดำเนินงานนั้นส่วนหนึ่งคณะ ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย แสดงเจตนารมณ์ด้านการสละทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือในด้านต่าง ๆด้วยดีเสมอมาโอกาสนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนในน้ำใจอันประเสริฐ เป็นกุศลแต่ท่านทั้งหลาย คณะ ฯ จึงขอมอบสิทธิประโยชน์สำหรับผู้บริจาคตามระเบียบการสมนาคุณผู้อุปการะนี้ กระผม ในนามของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รู้สึกทราบซึ้งในกุศลเจตนาของท่านทั้งหลายอันส่งผลต่อกิจการของคณะ ฯ และผู้ป่วยโรงพยาบาลศิริราชให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ สุดท้ายขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ตลอดจนอานิสงส์แห่งคุณความดีได้โปรดดลบันดาลน้อมนำส่งผลให้ท่าน และครอบครัวประสมความสุขปราศจากโรคาพยาธิ เจริญรุ่งเรืองสืบไป

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

การสมนาคุณผู้อุปการะ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ผู้อุปการะ

คือ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะ ฯ อันเนื่องมาจาก บริจาคเงิน สิ่งของ ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นรวมทั้งการบริจาค โลหิตเป็นการกุศล เพื่อใช้เป็นประโยชน์สำหรับกิจการขอคณะฯ แบ่งประเภทได้ดังนี้

1) ผู้อุปการะสามัญ คือ ผู้บริจาคตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 2,000,000 บาทหรือบริจาคโลหิตตั้งแต่ 20 ครั้ง แต่ไม่ถึง 40 ครั้ง

2) ผู้อุปการะวิสามัญ คือ ผู้บริจาคตั้งแต่ 2,000.000 บาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 10,000,000บาท หรือบริจาคโลหิตตั้งแต่ 40 ครั้ง

3) ผู้อุปการะกิตติมคักดิ์ แบ่งเป็น

ผู้อุปการะกิตติมศักดิ์ 1

ㆍผู้บริจาคตั้งแต่ 10,000,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 20,000,000 บาท

ผู้อุปการะกิตติมศักดิ์ 2

ㆍผู้บริจาคตั้งแต่ 20,000,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 40,000,000 บาท

ผู้อุปการะกิตติมศักดิ์ 3

ㆍผู้บริจาคตั้งแต่ 40,000,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 50,000,000 บาท

4) ผู้อุปการะกิตติมศักดิ์พิเศษ คือ ผู้บริจาคตั้งแต่ 50,000,000 บาทขึ้นไป

ㆍผู้อุปการะสมทม

คือ บุคคลในครอบครัวของผู้อุปการะกิตติมศักดิ์ และผู้อุปการะกิตติมศักดิ์พิเศษ อันได้แก่ บิดา มารดาคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้อุปการะที่มีอายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ รวมแล้วไม่เกิน 3 คน

สิทธิประโยชน์ของผู้อุปการะจะเริ่มภายหลังจากการบริจาคแล้ว 30 วัน

 

ผู้อุปการคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังต่อไปนี้

1. การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

2. ได้รับการยกเว้นค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ

3. การจารึกชื่อ

การขอพรราชทานเครื่องราชอิสริยากรณ์คณะๆ จะดำเนินการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้คณะฯ มูลค่า 100,000 บาทขึ้นไป โดยขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ตามหลักเกณฑ์ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

ข้อควรทราบ

  • ใบเสร็จรับเงินต้องออกในนามของบุคคลที่จะนำมาเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เท่านั้นใบเสร็จรับเงินที่ออกในนามของบริษัทจะนำมาเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ได้ในจำนวนเงิน 1 ใน 3 ของการบริจาค
  • หลักฐานการบริจาคที่ใช้ประกอบการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต้องใช้ฉบับจริงและถ้าเคยเสนอขอพระราชทานฯ แล้วจะนำมาเสนอขอพระราชทาน ฯ อีกไม่ได้

การยกเว้นค่ารักษาพยาบาล

ผู้อุปการะจะได้รับการยกว้นค่ารักษาพยาบาล คิดเป็นร้อยละของจำนวนเงินที่ท่านจ่ายจริง ดังนี้

*** ค่ารักษาพยาบาล หมายถึง เงินที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเรียกเก็บเป็นค่าให้บริการรักษาพยาบาลทั้งนี้ ไม่รวมถึงการบริการรักษาพยาบาส ณ คลินิกพิเศษ ค่าพยาบาลพิเศษ เคมีบำบัด ฉายแสง ค่าอวัยวะเทียม ค่าอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค ค่าห้องพักราคาไม่เกิน 2,000 บาทต่อวันส่วนเกินที่เหลือชำระเอง การตรวจพิเศษที่จำเป็นต้องส่งไปทำที่อื่น โดยที่ไม่มีบริการในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่ารักษาพยาบาล เช่น ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำดื่ม

ข้อควรทราบ

  • หากประสงค์จะยกสิทธิประโยชน์ให้ผู้อื่นผู้บริจาคจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะฯ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่บริจาคครบสิทธิ มิฉะนั้นจะถือว่าผู้บริจาคเป็นผู้ได้รับสิทธิโดยปริยาย
  • สิทธิประโยชน์ของผู้อุปการะหรือผู้อุปการะสมทบจะหมดไปเมื่อผู้อุปการะเสียชีวิตและสิทธิประโยชน์ในกรณีนี้โอนต่อให้บุคคลอื่นมิได้
  • หากประสงค์แต่งตั้งผู้อุปการะสมทบ ผู้บริจาคต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะฯ ล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนวันใช้สิทธิ
  • กรณีที่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลอื่น เช่น สิทธิต้นสังกัดจากหน่วยงานต่าง ๆ สิทธิประกันสังคมสิทธิโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิประกันชีวิต สิทธิพระราชบัญญัติ ผู้ประสบภัยแห่งชาติให้พิจารณาใช้สิทธิดังกล่าวก่อนแล้วจึงใช้สิทธิผู้อุปการะ
  • ผู้บริจาคที่ดินให้กับโรงพยาบาลศิริราชหรือคณะฯ ที่ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีจะได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะตัวผู้บริจาคเท่านั้น
  • เพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการตรวจรักษา กรุณาติดต่อที่งานประชาสัมพันธ์ ฯ ตึกผู้ป่วยนอกอาคาร 1 โทร 0 2419 7320, 0 2419 9077 โทรสาร 0 2412 1995
  • กรุณาแสดงบัตรผู้อุปการะต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง เมื่อมารับบริการ